8.3.54

"เพียงแค่รู้"



การที่ เพียงแค่รู้ ดูด้วยจิต

คือรู้คิด รู้กาย เมื่อย้ายไหว
กายโยกซ้าย ย้ายขวา ก็รู้ไป
รู้เมื่อใจ ส่ายสั่น หมั่นแลดู
มีกายตึง กายหย่อน ผ่อนเบาหนัก
มีผัสสะ เย็นร้อน อ่อนและไหว
มีอารมณ์ เดี๋ยวโกรธ เดี๋ยวสุขใจ
คละเคล้าไป หยุดไม่อยู่ แค่รู้พอ
เพียงแค่รู้ แค่ดู อยู่ใกล้ๆ
อย่าโดดไป เข้าร่วม รวมกับเขา
เดี๋ยวจะปน เปไป ใจไม่เบา
รวมกับเขา จิตจะหนัก ปักจมดิน
พยายามไป กลายเป็น เกร็ง เพ่ง บังคับ
อยากจะจับ ให้จิตดิ่ง นิ่งดังหวัง
หารู้ไม่ ว่ามันคง ไม่มีวัน
เพราะจิตนั้น อิสระ อนัตตา
คิดเสียว่า แค่รู้ เหมือนดูหนัง
เป็นแค่เพียง ผู้ชม นั่ง อยู่ข้างหน้า
ใครจะหยุด ใครจะไป ใครจะมา
ก็แค่รู้ ว่าผ่านมา และผ่านไป
ตัวร้ายมา เพียงแค่รู้ ว่าจิตหน่าย
พระเอกตาย เพียงแค่รู้ ว่าจิตหมอง
นางเอกมา เพียงแค่รู้ ว่าจิตปอง
เพียงแค่มอง เพียงแค่รู้ ดูอย่างเดียว
ระหว่างดู อย่าเข้าไป ใคร่อยากเปลี่ยน
เพียงแค่เพียร ดูเรื่อยๆ อย่าเฉื่อยแฉะ
ใครเป็นใคร เล่นบทไหน อย่าละเลย
ดูเฉยๆ ให้ถูกตรง อย่าหลงทาง


ถึงจะอยาก แต่ก็ยาก จะไปแก้
ทำได้ เพียงแค่รู้ว่าดูหนัง
ผู้กำกับ ว่ายังไง ว่าตามกัน
บทหนังนั้น เริ่มและจบ ในตัวเอง


ทุกอย่างนั้น ถูกกำหนด ด้วยบทเขียน
ไม่อาจเปลี่ยน เพราะถ่ายจบ ค่อยถูกฉาย
คนสุดท้าย คือคนดู กลุ้มใจตาย
หากว่าหมาย เปลี่ยนบทหนัง เป็นดั่งใจ
เป็น ผู้ดูจำไว้ ใช่ผู้เล่น
อย่าไปเต้น ไปลำดับ กำกับหนัง
เป็นผู้ดู รู้หน้าที่ ง่ายดีจัง
เพียงแค่นั่ง ดูๆไป ตั้งใจดู
เพียงแค่ดู แต่ต้องดู ให้รู้เรื่อง
หนังจบเรื่อง ต้องเล่าได้ ไม่อายเขา
ใช่แต่นั่ง ดูๆไป คล้ายคนเมา
พอให้เล่า ก็มั่วไป ไม่เคยตรง
หนังที่ดู รู้ไว้เลย หนังชีวิต
หลายตอนติด หลากรสชาติ ไม่ขาดสาย
ถ้าดูเป็น หนังไม่ทำ ให้วุ่นวาย
พอหนังฉาย ถึงตอนจบ พบสุขเอย

ขอขอบคุณหนังสือ "ดูเฉยๆ หนึ่งพรรษา"
...With Love and Breathe...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น